top of page
แองเคอ 1

บทความ

ภาวะภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงสำคัญอย่างไร โดย รศ. สพญ. ดร. มีนา สาริกะภูติ



ซึ่งจากประสบการณ์การรักษาสัตว์เลี้ยงในเขตกรุงเทพฯ ส่วนมากจะได้รับการดูแลควบคุมปรสิตภายนอกเป็นประจำ จึงทำให้ภาวะภูมิแพ้จากสาเหตุที่หนึ่งพบได้น้อย ส่วนสาเหตุที่พบได้มากคือ food allergy และ atopy ในสัดส่วน 1:5 ถึง 1:10 สัดส่วนเคส food allergy ที่พบได้น้อยอาจจะเนื่องจากมีปัจจัยอื่นที่มีผลทำให้เราไม่สามารถวินิจฉัยโรค food allergy ได้เป็นต้นว่ามีสัตว์เลี้ยงหลายตัวที่เราไม่สามารถทำ elimination diet trial ได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงบางส่วนที่เป็นภูมิแพ้อาหารร่วมกับภูมิแพ้สิ่งแวดล้อม (combination) จะเห็นได้จากเมื่อทำ food trial สำเร็จไปแล้วสุนัขคงยังมีอาการคันอยู่


ภาวะภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง สามารถจำแนกตามสาเหตุคร่าวๆ ได้แก่

1.แพ้น้ำลายหมัด (flea bite allergy)

2.แพ้อาหาร (food allergy)

3.แพ้จากการสัมผัสต่างๆ

4.แพ้สารในสิ่งแวดล้อม (environmental allergy; atopy)

ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ จะทำได้โดยการแยกโรคบังหน้าอื่นๆที่มีอาการคันออกไปก่อน เช่น โรคที่เกิดจากพยาธิภายนอก , โรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อ แล้วจึงเหลือโรคผิวหนังชนิด allergy ซึ่งมีได้หลายแบบเช่นกัน หลังจากผ่านการ exclude โรคภูมิแพ้อื่นๆ ดังกล่าวออกไปแล้วและวินิจฉัยได้ว่าเป็น atopy ขั้นตอนต่อไปที่คุณหมอควรทำ ในกรณีที่เจ้าของต้องการทราบว่าสุนัขแพ้อะไร คือการตรวจหาชนิด allergen หรือสารที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้ วิธีการที่ถือว่าเป็น gold standard คือการทำ intradermal skin test ซึ่งมีข้อจำกัดคือต้องอาศัยความชำนาญในการทำ สุนัขต้องได้รับยาทำให้ซึมและต้องโกนขนเป็นบริเวณกว้างทำให้ทั้งเจ้าของและคุณหมอปฏิเสธการทำหัตถการดังกล่าว แต่ในปัจจุบันเราสามารถตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ด้วยวิธีทาง serology นั่นคือการตรวจหา circulatory IgE ที่จำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม เพียงแค่คุณหมอเจาะเลือดสัตว์เลี้ยงและติดต่อส่งตัวแทนเพื่อนำตัวอย่างส่งตรวจไปยังห้องแล็ปต่างประเทศ และรายงานผลกลับมาให้ ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นวิธีที่มีความถูกต้องแม่นยำใกล้เคียงกับวิธี intradermal skin test มากที่สุดและเป็นที่ยอมรับในวงการสัตว์แพทย์ทั่วโลก


ในกรณีที่เลือกใช้การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ด้วยวิธี serology ควรจะต้องเลือกส่งตัวอย่างกับบริษัทตัวแทนไหนดี? ปัจจัยที่จะช่วยคุณหมอ ได้แก่คุณหมอควรคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทและห้องแล็ปที่ใช้ตรวจการให้คำปรึกษา การบริการหลังการขาย เช่น consult กับต่างประเทศในกรณีที่ผลตรวจมีปัญหา รวมไปถึงพิจารณาความละเอียดของการรายงานผลเช่น การรายงานผลเป็นความรุนแรงของการแพ้ ตั้งแต่ระดับ +1ถึง +4 เช่นนี้จะทำให้คุณหมอสามารถแปลผลและพิจารณาแนวทางการรักษาต่อไปได้ง่ายกว่าการรายงานผลแค่ positive หรือ negative นอกจากนี้ควรคำนึงถึงจำนวนและชนิดของ allergen ที่ใช้ทดสอบควรมีจำนวนมากพอควร และเป็นสิ่งที่พบได้ในสิ่งแวดล้อมในเขตร้อนชื้นหรือในประเทศไทย



ชนิดของ environmental allergen ที่พบว่าเป็นสาเหตุหลักในบ้านเราได้แก่ ไรฝุ่นบ้าน (house dust mite) , pollen จากต้นไม้หรือหญ้า ทั้งนี้สารก่อภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวก็จะขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่สัตว์เลี้ยงอาศัยคลุกคลีอยู่เป็นประจำ แม้ว่าภาวะ atopy จะมี predisposing breed และเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุ์กรรมในสุนัขบางสายพันธุ์ที่มีโครงสร้างผิวหนังที่ผิดปกติ ทำให้สามารถรับ allergen ผ่านเข้าผิวหนังได้ง่าย แต่ชนิดของ allergen ที่สุนัขแต่ละตัวแพ้นั้นจะแตกต่างกันออกไปตามสภาพการเลี้ยงดูเช่น สุนัขที่เลี้ยงดูในคอนโดที่มีพื้นเป็นพรม มักพบว่าเป็นโรคภูมิแพ้ต่อไรฝุ่นบ้าน ในขณะที่สุนัขที่ถูกเลี้ยงในบ้านสวน มักพบว่าสารก่อภูมิแพ้ได้แก่ grass หรือ tree pollen


หลังจากวินิจฉัยจนทราบชนิด allergen ที่สุนัขแพ้ได้แล้วการรักษาสามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงหรือกำจัดสารเหล่านั้นออกจากสิ่งแวดล้อมของสุนัข หรืออีกหนึ่งทางเลือกของการรักษา คือการใช้ immunotherapy โดยการฉีดสารตัวที่สัตว์เลี้ยงแพ้เข้าไปในปริมาณต่ำๆเป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสัตว์เลี้ยงเปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดอาการแพ้น้อยลง ซึ่งจะเริ่มเห็นผลอย่างน้อยเมื่อผ่านไป 9 เดือน (นับจากที่เริ่มโปรแกรมการฉีด) วิธีการดังกล่าวจะช่วยลดอาการคันของสัตว์เลี้ยงลงได้ ซึ่งส่งผลให้สามารถลดปริมาณยาแก้คันที่สุนัขจำเป็นต้องได้รับไปตลอดชีวิต


บทความอ้างอิงจาก 
นิตยสาร VPN 
ดู 2,603 ครั้ง
bottom of page