top of page
แองเคอ 1

บทความ

สกู๊ปพิเศษ กับหมอปุ๋ม เรื่อง "ภูมิแพ้ในสุนัขและแมว"


สกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ หมอปุ๋ม สัตวแพทย์เชี่ยวชาญด้านการตรวจ รักษาภูมิแพ้ในสุนัขและแมว(ประจำโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำต่างๆ) ถึงเรื่อง "ภูมิแพ้ในสุนัขและแมว"



ใน 1 เดือนตรวจสุนัขและแมวประมาณกี่ตัวครับคุณหมอ ?

ประมาณ 100 ตัวต่อเดือนค่ะ จะเป็นภูมิแพ้ประมาณ 60 เปอร์เซนต์


ส่วนใหญ่ที่ตรวจเป็น สุนัขหรือแมวครับ ?

ในสุนัขเป็นภูมิแพ้เยอะกว่าแมวอยู่แล้วค่ะ ในแมวเปอร์เซนต์การเกิดโรคจะน้อยกว่าสุนัข การวิจัยในแมวยังไม่ได้มีการทำวิจัยว่ามีผลกับยีนส์มั้ย ไม่เหมือนกับสุนัขที่มีการศึกษาเรื่องพันธุ์กรรมมีผลต่อภูมิแพ้สิ่งแวดล้อม แมวจะเทไปที่ทางการติดเชื้อเช่นพวกโรคพยาธิภายนอก ติดไร ติดเชื้อรา เป็นส่วนใหญ่


สายพันธุ์มีผลกับการเกิดภูมิแพ้มั้ย ?

มีผลค่ะ โดยเฉพาะภูมิแพ้สิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า Atomic Dermatitic (อะโตมิค เดอมาไตติค) ในครอบครัวเดียวกันมักจะเกิดโดยสายพันธุ์ พันธุ์สุนัขที่มักพบว่ามีอาการเกิดภูมิแพ้ได้มากเช่น โกลเด้น-รีทรีฟเวอร์ ชิสุ ปั๊ก พุดเดิ้ล ลาบาดอ

เป็นต้น


มีวิธีสังเกตุอย่างไรว่าสุนัข แมวที่เลี้ยงเป็นภูมิแพ้ ?

ถ้าเกิดผิวหนังคัน เป็นแผลเรื้อรังไม่หายสักที กินยาฆ่าเชื้อ ยาแก้แพ้ แล้วหายพอหยุดยากลับมาเป็นใหม่ กินยาแล้วหาย วนอยู่แบบนี้ หรือบางตัวมีอาการหูอักเสบเรื้อรัง เลียเท้าแคะเท้าบ่อยกว่าปกติ ให้สงสัยว่ามีโอกาศเป็น ยังไงพามาวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์จะดีที่สุดค่ะ


ช่วงอายุของสุนัขและที่สามารถเป็นภูมิแพ้จะอยู่ที่อายุเท่าไรครับ ?

มักจะเกิดในช่วง 1-3 ปี (อาการเริ่มแรก) แต่สามารถเป็นได้ทุกช่วงอายุ สมมติกินยากดภูมิถึงอายุ 10ปีแล้วเลิกกิน ในต่อๆไปก็สามารถเป็นได้เช่นกัน


แชมพูที่วางขายตามท้องตลาดสามารถช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้มั้ย ?

ช่วยได้แต่ต้องให้ตรงตามสูตรเช่น เป็นโรคภูมิแพ้ควรใช้แชมพูที่มีส่วนประกอบของสารที่ช่วยเรื่องภูมิแพ้ ถ้าสุนัขมีการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ยีสต์ รา ก็ควรใช้แชมพูในสูตรของการฆ่าเชื้อ ต้องให้สัตวแพทย์เป็นคนช่วยดูให้ว่าควรให้แชมพูสูตรไหนในการรักษา


ส่วนการใช้แชมพูในชีวิตประจำวัน ควรใช้ตามลักษณะของขน สายพันธุ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้แชมพูของคนเพราะค่าความ กรดและด่าง ต่างกัน เมื่อใช้นานๆจะทำให้ผิวหนังสุนัขสูญเสียความเป็นสมดุล จนทำให้เกิดผิวแห้ง ระคายเคือง ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้


วิธีการตรวจในตอนนี้มีการตรวจภูมิแพ้กี่แบบ

มีการตรวจ 2 แบบค่ะ

1.การตรวจ Skin test

2.การตรวเจลือด (เซรั่ม)


การตรวจ skin test ต่างกับการตรวจเลือดยังไง ?

การตรวจเลือดความแม่นยำจะอยู่ที่แล็บนั้นๆว่าได้มาตรฐาน และประสบความสำเร็จในการรักษามากเพียงใด

ข้อดี การตรวจเลือด (เซรั่ม) ไม่ต้องวางยา ง่ายและสะดวก เจาะเลือด แล้วรอผลประมาณ 2เดือนสำหรับแล็บนอก ส่วนแล็บไทยประมาณ 2อาทิตย์

ข้อเสีย การตรวจเลือด (เซรั่ม) ใช้เวลารอผลค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับการตรวจแบบ skin test


ข้อดี skin test ไปกระตุ้นที่ผิวหนังเลย มีความแม่นยำ ใช้เวลา 30 นาทีสามารถรู้ผลได้เลย สัตวแพทย์สามารถวางแผนรักษากับเจ้าของได้เลย มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

ข้อเสีย skin test คือต้องวางยา ถ้าลอยโรคของผิวหนังเยอะมาก บางตัวมีตุ่มหนา จะทำไม่ได้ สัตวแพทย์ที่ทำต้องมีประสบการณ์ในการทำเพราะอาจจะทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้


ถ้าสนใจจะตรวจต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับคุณหมอ ?

จะวินิจฉัยก่อนว่าแพ้อะไรมา เจ้าของบางท่านอาจจะยังไม่ได้พาไปทดสอบ การแพ้อาหารหรือการแพ้เห็บหมัด ถ้ายังไม่ได้ทำจะไม่สามารถตรวจภูมิแพ้ตรงนี้ได้ แนะนำให้ทำเมื่อเป็นจริงๆเพราะถ้ายังไม่เกิดอาการ ผลที่ได้อาจจะไม่ตรงจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าเรารูู้ว่าแพ้อะไรมาสามารถทำได้ทันที แต่ถ้ามาตรวจใหม่ใช้เวลาประมาณ 2-3เดือนกว่าจะทำเทสได้ นอกจากมาจากโรงพยาบาลอื่นที่เคยทำเทสมาแล้วถึงสามารถทำเทสได้เลย


การเตรียมตัวตรวจเลือด - ไม่ต้องงดน้ำ ไม่ต้องงดอาหาร สามารถเจาะเลือดได้เลย แต่ให้งดยาสเตียรอยด์ 3 อาทิตย์ ยาแก้แพ้ 2อาทิตย์ แล้วแต่ตัวยา (แต่ส่วนใหญ่ไม่ต้องลด) ก่อนที่จะทำควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้งค่ะ


มีความคิดเห็นอย่างไร ว่าการตรวจแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ?

ต้องอธิบายก่อนว่าการรักษามีหลายแบบเช่น

ยากดภูมิหมอมองว่าช่วงเริ่มต้นที่ยังเป็นไม่หนักสามารถกินยากดภูมิแบบปลอดภัยได้ ค่าใช้จ่ายในช่วงแรกอาจจะไม่แพงมาก แต่เมื่อคิดรวมระยะยาวเมื่อรวมกันเป็นก้อนก็จะมีราคาที่สูงอยู่เหมือนกัน


ยาสเตียรอยด์ราคาถูกแต่ผลค้างเคียงก็สูงเช่นกัน หากมีอาการเรื่องตับและไต ขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการกินยากดภูมิแบบปลอดภัย หรือการทำเทสพอสมควร


การทำเทส(ตรวจเลือด) อาจจะมองว่าค่าใช้จ่ายสูงที่ แต่มันเป็นการหาสาเหตุของปัญหาได้จริงๆว่า แพ้ชนิดไหน เราสามารถหลีกเลี่ยง หรือจะทำการรักษาด้วย Immuno Therapy (เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน) หรืออาจจะยังกินยาได้อยู่ จะได้รู้ว่ากำลังเผชิญกับการแพ้อะไร ข้อดีก็คือมันเป็นการรักษาแบบเปลี่ยนชนิดของเซลล์ในการแพ้ พูดง่ายๆคือเปลี่ยนจากเซลล์ที่แพ้ ให้เป็นแบบที่ไม่แพ้ ในขณะที่การรักษาด้วยยากดภูมิต่างๆมันเป็นการกดไม่ให้แสดงอาการเมื่อหยุดยาอาการก็จะแสดงขึ้นมา วิธีการทำเทสในระยะยาวเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และสามารถรักษาได้ตลอดชีวิต แม้สุนัขจะแก่ มีปัญหาด้าน ตับ ไต มาก่อนก็ตาม


ถ้าสาเหตุการเกิดภูมิแพ้ส่วนใหญ่เกิดจากภายนอกบ้าน แบบนี้ห้ามนำสุนัขและแมวออกไปข้างนอกเลยรึป่าวครับ ?

ไม่จำเป็น สุมมติถ้าแพ้หญ้าต่อให้อยู่ในบ้านก็สามารถแพ้ได้ ด้วยความที่หญ้าหรือละอองมันเล็กมากพวกนี้สามารถเคลื่อนที่ได้เป็นหลายร้อยกิโลเมตร ยังไงสามารถถึงได้อยู่แล้ว ถึงอยุ่ในบ้านก็ติดได้เพราะอากาศมีการถ่ายเทตลอด แนะนำให้ทำเทสก่อนเพื่อที่จะได้รู้ว่าสัตว์ตัวนั้นแพ้อะไร ยกตัวอย่างเช่นสัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงแพ้ไรฝุ่น บางตัวอาจจะเซนซิทีฟต่อให้ไรฝุ่นนั้นมีปริมาณที่น้อยมากก็จะทำให้ติดได้เช่นกัน แต่ก็ควรรักษาความสะอาดภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อลดอาการแพ้ของสุนัขหรือแมว


เลี้ยงหมา 2 ตัว พันธุ์เดียวกัน ในสถานที่เดียวกัน มีโอกาสที่ ตัวนึงเป็น อีกตัวไม่เป็นรึป่าวครับ ?

ต้องดูว่าเป็นพี่น้องกันมั้ย หรือเป็นเครือญาติกันมั้ย มีเชื้อสายเดียวกันมั้ย เช่น มีพ่อแม่เดียวกัน มีโอกาสที่จะเป็นได้


หากซื้อสัตว์ตามสถานที่ขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป ต้องนำมาตรวจเชื้อก่อนมั้ย ?

ควรนำมาตรวจสุขภาพก่อนแต่ยังทำวัคซีนไม่ได้ และให้เฝ้าสังเกตุอาการประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าผ่านมาแล้วก็ไม่ต้องทำวัคซีน แต่ถ้าป่วยต้องรีบพามาหาสัตวแพทย์ ในสุนัขเด็กที่มักเจอบ่อยจะเป็น ลำไส้อักเสบ ไข้หัดสุนัข ส่วนแมวจะเป็น พยาธิ และโรคหัดแมวจะทำให้เกิดท้องเสีย


สภาพอากาศของประเทศไทยมีผลต่อการเป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้นมั้ย ?

ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศร้อนชื้น เหมาะแก่การเติบโตในทุกพื้นที่อยู่แล้ว


คุณหมอคิดว่าคนไทยปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องตรวจภูมิแพ้ในสุขและแมวเยอะมั้ย

เยอะ แนวโน้มคนรักหมาเหมือนลูก ดูแลเหมือนลูก เป็นคนในครอบครัว มักจะตรวจ แนวโน้มคนที่เลี้ยงหมาและรักเหมือนลูกเพิ่มขึ้นทุกปี

ดู 2,918 ครั้ง
bottom of page